รีวิว Swinburne University of Technology

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Swinburne University of Technology ดีไหม

“Swinburne มหาวิทยาลัยในเมืองเมลเบิร์น มีวิทยาเขตหลักตั้งอยู่ในย่านที่แวดล้อมไปด้วยสถานศึกษา และมีความปลอดภัยสูง สามารถเดินทางไปยังวิทยาเขตหลัก ด้วยรถไฟจากใจกลางเมืองภายใน 15 นาที  ค่าเรียนเฉลี่ยต่อปีของ Swinburne ถูกเป็นอันดับที่สองของเมือง  มีนโยบายที่ยืดหยุ่นในการรับนักศึกษาเข้าเรียนต่อ รวมถึงการรับนักศึกษาโอนย้ายจากมหาวิทยาลัยอื่น”

 

Judgement (มหาวิทยาลัยนี้ดีไหม)

Swinburne University of Technology เป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ในย่าน Hawthorn ที่อยู่ติดกับย่านใจกลางเมืองเมลเบิร์น  เราชอบย่านที่ตั้งวิทยาเขตหลักของ Swinburne เป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นย่านที่มีความปลอดภัยสูง และมีสิ่งแวดล้อมด้านการศึกษาดีเยี่ยม ดูได้จากการทีย่านนี้แวดล้อมไปด้วย โรงเรียน สวนสาธารณะ  ห้องสมุดประชาชน  อีกทั้งการเดินทางระหว่างใจกลางเมืองเมลเบิร์น กับ วิทยาเขตหลัก ถือสะดวกมาก เดินทางด้วยรถไฟจากสถานี Flinders Street ในใจกลางเมือง ไปลงที่ Glenferrie (เป็นทั้งชื่อสถานีรถไฟและถนน) แล้วเดินต่ออีก 5 นาที ก็จะถึงวิทยาเขตหลัก Hawthorn ของ Swinburne

อย่างไรก็ตาม อันดับของ Swinburne ภายในออสเตรเลีย อยู่ในระดับกลาง ขณะที่ชื่อเสียงในระดับโลกถือว่าค่อนข้างจำกัดเพราะได้รับสถานะเป็นมหาวิทยาลัยช้ากว่าอีกหลายมหาวิทยาลัยในเมืองเดียวกัน แต่ละวิทยาเขตของ Swinburne มีขนาดไม่ใหญ่ อาจจะไม่ถูกใจนักศึกษาที่ต้องการพื้นที่นอกอาคารในการนั่งอ่านหนังสือ หรือพักผ่อน

ทั้งนี้ Swinburne ก็ยังสามารถทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะในสาขาศิลปะและการออกแบบ ดูได้จากอันดับโลกของสาขานี้ในรอบหลายปีที่ผ่านมา และ Swinburne ก็ยังทำผลงานได้ค่อนข้างดีในด้านวิศวกรรมโยธาและวิศวกรรมเครื่องกล อีกด้วย  ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการเรียน เรามองว่า Swinburne มีความน่าสนใจในเรื่องระดับค่าเรียนเฉลี่ยต่อปี เพราะถูกเป็นอันดับสองของเมืองเมลเบิร์น

_____________________________________________________________________________

คะแนนรวมเฉลี่ย

การให้คะแนน โดยพิจารณาหัวข้อที่สำคัญ (คะแนนเต็ม 5) ให้น้ำหนักเท่ากันทุกหัวข้อ

  • ชื่อเสียงระดับโลก [2/5] – มี ranking โลกอยู่อันดับระหว่าง 400-500 ความเห็นของสถาบันจัดอันดับอย่าง Times และ QS เป็นไปในแนวเดียวกัน ทำผลงานได้ดีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาในสาขาด้านศิลปะและการออกแบบ โดย 3 ปีที่ผ่านมา QS จัดให้อยู่ใน Top 100 ของโลกในสาขาดังกล่าว
  • ชื่อเสียงภายในประเทศ [3/5] – หลายปีที่ผ่านมา ranking ภายในประเทศถูกจัดให้อยู่ระหว่างอันดับที่ 19-25 จากทั้งหมด 38 มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียที่เรานำมาวิเคราะห์โดยวิธี Quantitative Interviews และ Perceptual Mapping นอกเหนือจากสาขาด้านศิลปะและการออกแบบที่ Swinburne ที่ทำผลงานได้ดีมาก Swinburne ถือว่าทำผลงานได้ดีในสาขาวิศวกรรมศาสตร์โดยเฉพาะวิศวกรรมโยธา และวิศวกรรมเครื่องกล เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในอันดับที่ใกล้เคียงกันภายในประเทศ
  • คะแนนแอดมิดชั่นที่รับ [2/5] – Swinburne กำหนดเกณฑ์การรับคะแนนแอดมิดชั่นระดับปริญญาตรีไม่สูงมาก เนื่องจากในเมือง Melbounre มีมหาวิทยาลัยจำนวนมาก การตั้งเกณฑ์ของ Swinburne ค่อนข้างอิงกับการแข่งขันด้าน student demand ระหว่างมหาวิทยาลัยด้วยกันในรัฐ Victoria แต่ยังคงต้องมีความสามารถในการแข่งขันได้อยู่
  • งานวิจัย [5/5] – ปีล่าสุด Swinburne ได้รับการจัดสรรเงินสนับสนุนการทำวิจัยจากรัฐบาลกลางเป็นจำนวน 18.05 ล้านเหรียญออสเตรเลียน ขณะที่มีสัดส่วนนักศึกษาทำวิจัยอยู่ที่ 2.823%
  • ความเก่าแก่ของมหาวิทยาลัยนับจากได้รับสถานะ [5/5] – ปี 1992 Swinburne ได้รับสถานะเป็นมหาวิทยาลัย ในปีเดียวกับมหาวิทยาลัยร่วมเมืองอย่าง RMIT University ซึ่งถือสถานะเป็นมหาวิทยาลัยค่อนข้างใหม่
  • ที่ตั้งวิทยาเขตหลักใกล้ CBD [4 /5] – วิทยาเขตหลัก Hawthorn อยู่ใน suburb ที่ใกล้กับใจกลางเมือง ไปทางตะวันออกประมาณ 8 กิโลเมตร การเดินทางสะดวกมาก สามารถเดินทางด้วยรถไฟจากในใจกลางเมืองไปลง Glenferrie (เป็นทั้งชื่อสถานีรถไฟและถนน) ที่สามารถเดินต่ออีกเล็กน้อยไปยังถนน John Street หน้ามหาวิทยาลัย ใช้เวลารวมการเดินทางจากในใจกลางเมืองไม่เกิน 15-20 นาที
  • ระดับค่าเรียน [3.5/5] – ระดับค่าเรียนเฉลี่ยต่อปีของ Swinburne ถูกเป็นอันดับที่ 2 เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยร่วมเมือง โดยค่าเรียนเฉลี่ยต่อปีถูกกว่า University of Melbourne, Monash University, RMIT University และ Deakin University

คะแนนรวมเฉลี่ย [2.5/5]

หมายเหตุ: Methodology (ระเบียบวิธีคำนวณ) ถูกอธิบายไว้ในตอนท้ายของบทความ

_____________________________________________________________________________

จุดเด่น

  • ที่ตั้งวิทยาเขตหลักของ Swinburne ใน Hawthorn เป็นย่านที่น่าอยู่และมีความปลอดภัยสูงมาก เพราะเป็นย่านที่ราคาที่ดินแพงมากย่านหนึ่งในเมลเบิร์น และแวดล้อมไปด้วยโรงเรียนประถม มัธยม และหอพักนักศึกษา ห้องสมุดสาธารณะ
  • ย่าน Hawthorn เป็นย่านที่มีทุกอย่าง ตั้งแต่ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ บ้านให้เช่า สถานีรถไฟ ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย Swinburne สามารถเดินไปมาที่ต่างๆ ได้  การเดินทางระหว่างใจกลางเมืองเมลเบิร์นกับวิทยาเขตหลักก็สะดวกมาก  เดินทางด้วยรถไฟและเดินต่อสั้นๆ ใช้เวลารวมไม่เกิน 15-20 นาที  โดยสามารถนั่งรถไฟจากสถานีหลัก Flinders Street ใจกลางเมือง ไปแค่ 4-5 ป้าย ลงสถานี Glenferrie แล้วเดินต่ออีก 5 นาที ไปยังถนน John Street หน้าวิทยาเขตหลัก Hawthorn  ซึ่งรถไฟมีตลอดทั้งวันและถี่มาก
  • ขนาดของมหาวิทยาลัย Swinburne ไม่ใหญ่ ทำให้มีจำนวนนักศึกษาอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่แออัดมากเหมือนบางมหาวิทยาลัยร่วมเมืองในเมลเบิร์น อาคารเรียนภายในวิทยาเขตหลักของ Swinburne มีความสวยงาม ดูทันสมัยมาก
  • มีความยืดหยุ่นในการรับนักศึกษาเข้าเรียน รวมถึงการรับโอนย้ายของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอื่น
  • การหาที่พัก บ้านเช่า ใกล้วิทยาเขตหลักของมหาวิทยาลัยถือว่ามีทางเลือกเยอะมาก เช่น ในย่าน Hawthorn East และ Auburn  หรือจะพักใน CBD (ใจกลางเมลเบิร์น) แล้วเดินทางมาที่วิทยาเขตหลัก ก็ถือว่าสะดวกมากเช่นกัน
  • ค่าเรียนของ Swinburne ถือว่าไม่แพง เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในเมลเบิร์นด้วยกัน

_____________________________________________________________________________

จุดอื่นๆ ที่ควรทราบ

  • เนื่องจาก Swinburne เพิ่งจะได้รับสถานะเป็นมหาวิทยาลัยหลังปี 1990 ทำให้ Swinburne เป็นมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างใหม่ ไม่เก่าแก่เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยร่วมเมืองอย่าง University of Melbourne, La Trobe University หรือ Deakin University
  • พื้นที่แต่ละวิทยาเขตของ Swinburne แม้แต่วิทยาเขตหลัก ถือว่าค่อนข้างจำกัด ทำให้มหาวิทยาลัยไม่มีพื้นที่ภายนอกอาคารให้นักศึกษาได้นั่งอ่านหนังสือ พักผ่อน หรือทำกิจกรรมมากนัก
  • ค่าครองชีพ รวมถึงค่าที่พักในเขต Hawthorn ถือว่าสูง และไม่ต่างจากการใช้ชีวิตในใจกลางเมลเบิร์นเนื่องจากเมืองเมลเบิร์นมีมหาวิทยาลัยอยู่เป็นจำนวนมาก และมีการแข่งขันที่สูงในการรับนักศึกษาโดยเฉพาะระดับปริญญาตรี ทำให้ Swinburne มักจะไม่ได้รับความสนใจจากนักศึกษาเก่งๆ มากนัก รวมถึงการมีนโยบายเปิดรับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอื่นที่ต้องการย้ายโอนหน่วยกิต  ทำให้สิ่งแวดล้อมด้านการเรียนที่ Swinburne ถือว่าไม่ได้มีการแข่งขันสูงมากเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในเมลเบิร์น

____________________________________________________________________________

ข้อมูลของมหาวิทยาลัย

Swinburne University of Technology (“Swinburne”) เป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่ตั้งอยู่ในเมือง Melbourne (เมลเบิร์น) รัฐ Victoria (วิคทอเรีย) ได้รับสถานะเป็นมหาวิทยาลัยในปี 1992 (พ.ศ. 2535)   Swinburne มีจุดกำเนิดมาจากการเป็นวิทยาลัยทางด้านเทคนิคในย่านตะวันออกของเมือง Melbourne   ชื่อของมหาวิทยาลัยถูกตั้งตามชื่อของ George Swinburne ผู้ก่อตั้งวิทยาลัยด้านเทคนิคดังกล่าว

มีวิทยาเขตหลักชื่อ Hawthorn (ชื่อเดียวกับย่านที่ตั้ง) วิทยาเขตหลักอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเมลเบิร์นประมาณ 8 กิโลเมตร มาทางตะวันออก  สามารถเดินทางด้วยรถไฟที่มีตลอดทั้งวันและถี่มากจากใจกลางเมืองและเดินต่อสั้นๆ ใช้เวลารวมประมาณ 15-20 นาทีจากในเมือง การเดินทางมีความสะดวกมาก  นักศึกษาส่วนใหญ่ต้องมาเรียนที่วิทยาเขตหลัก

นอกจากวิทยาเขตหลัก Hawthorn ยังมีวิทยาเขตอื่นๆ เช่น วิทยาเขต Croydon อยู่ทางตะวันออกของเมือง ห่างออกไปประมาณ 30 กิโลเมตร  การเดินทางต้องนั่งรถไฟ และไปต่อรถเมล์ ใช้เวลาเกือบๆ 1 ชั่วโมง 30 นาที วิทยาเขตนี้เน้นวิชาทางสายอาชีพ เพราะ Swinburne เคยเป็นวิทยาลัยทางด้านเทคนิคมาก่อน   มหาวิทยาลัยมีวิทยาเขตต่างประเทศในมาเลเซียด้วย

*จำนวนนักศึกษาทั้งหมดของมหาวิทยาลัย มีอยู่ประมาณ 39,181 คน มีสัดส่วนของนักเรียนต่างชาติประมาณ 9,103 คน คิดเป็นสัดส่วน 23%

ปัจจุบัน มหาวิทยาลัย Swinburne เป็นสมาชิก The Association of Southeast Asian Institutions of Higher Learning (ASAIHL) หรือ สมาคมสถาบันการศึกษาชั้นอุดมแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

*ข้อมูลปี 2016

_____________________________________________________________________________

ค่าใช้จ่าย

  • ค่าเล่าเรียนโดยเฉลี่ยต่อปี

– ปริญญาตรี = AUD 29,308          ปริญญาโท = AUD 30,573

 

  • ค่าใช้จ่ายรวมโดยเฉลี่ยตลอดหลักสูตร* (รวมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน**)

– หลักสูตรปริญญาตรี คำนวณที่ 3 ปี = AUD 144,924

– หลักสูตรปริญญาโท คำนวณที่ 1.5 ปี = AUD 74,359

* ค่าใช้จ่ายรวมจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาหลักสูตร ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าใช้จ่ายขอวีซ่า และค่าเรียนภาษา

** ประมาณค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน (ตัวเลขกลางๆ) ไว้ที่ AUD 19,000 ต่อปี

_____________________________________________________________________________

คะแนนภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยกำหนด

  • IELTS

– ปริญญาตรี = 6.5

– ปริญญาโท = 6.5

  • ทางเลือกกรณีคะแนนไม่ถึง
    • สอบตามเกณฑ์ใน English for Academic Purposes (EAP) ของมหาวิทยาลัยแบบเข้าตรง มีการกำหนดเวลาเรียนตั้งแต่ 5 สัปดาห์ ไปจนถึง 50 สัปดาห์
    • ในบางกรณี ผู้สมัครเรียนสาขาด้านธุรกิจต้องลงทะเบียนเรียนหลักสูตรThe Masters Qualifying Program (MQP) ที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดไว้ก่อน
    • มีนโยบายรับผลสองภาษาอังกฤษในหลักสูตรของสถาบันเอกชนอื่นหรือมหาวิทยาลัยอื่นบางแห่ง

_____________________________________________________________________________

ลิงค์ที่สำคัญของมหาวิทยาลัย

  • สถาบันภาษาของมหาวิทยาลัย และค่าเรียนภาษา

https://www.swinburne.edu.au/study/course/English-Language-Courses-(ELICOS)-EL-ELICOS/international  

  • ระยะเวลาเรียนแยกตามสาขาวิชา

http://www.swinburne.edu.au/study/degrees/find-course/   

 

  • ค่าเรียนหลักสูตรปริญญาตรีแยกตามสาขาวิชา

https://www.swinburne.edu.au/study/options/find/ 

  • ค่าเรียนหลักสูตรปริญญาโทแยกตามสาขาวิชา

https://www.swinburne.edu.au/study/options/find/

_____________________________________________________________________________

Methodology (ระเบียบวิธีคำนวณคะแนนรวมเฉลี่ย)

ใช้วิธีทางสถิติเพื่อเรตติ้งและเปรียบเทียบคะแนนใน 7 indicators หลัก ได้แก่ World Ranking, National Ranking, Student Demand, Research, University Prestige, Location และ Program Fee จากทั้งหมด 38 มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียที่นำมาวิเคราะห์

  1. World Ranking (ชื่อเสียงระดับโลก) – เราวิเคราะห์จากข้อมูลเผยแพร่ประจำปีล่าสุดจากสองสถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยของโลก ได้แก่ Times Higher Education และ QS World University Rankings
  2. National Ranking (ชื่อเสียงภายในประเทศ) – เราวิเคราะห์โดยวิธี Quantitative Interviews จาก domestic students ในประเทศออสเตรเลียจากมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง ใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,000 คน จากนั้นนำผลที่ได้ไปทำ Perceptual Mapping เพื่อจัดช่วงอันดับ
  3. Student demand (ความต้องการเข้าเรียน) – เราวิเคราะห์จาก ATAR Score ในปีล่าสุด เพื่อดูเกณฑ์การรับคะแนนแอดมิดชั่นระดับปริญญาตรี
  4. Research (ด้านการวิจัย) – เราวิเคราะห์จากจำนวนเงินการทำวิจัยที่รัฐบาลออสเตรเลียจัดสรรให้กับแต่ละมหาวิทยาลัยในปีล่าสุด และสัดส่วนของนักศึกษาวิจัยทั้งระดับปริญญาโท ปริญญาเอก ของแต่ละมหาวิทยาลัยในปีล่าสุด
  5. University Prestige – เราวิเคราะห์โดยใช้ความเก่าแก่ของมหาวิทยาลัย นับตั้งแต่ได้รับสถานะเป็นมหาวิทยาลัยอย่างสมบูรณ์
  6. Location – เราวิเคราะห์จากความใกล้ไกลของ main campus / headquarters campus หรือ วิทยาเขตหลัก ห่างจากบริเวณที่เป็นใจกลางเมืองที่ตั้ง
  7. Program Fee – เราวิเคราะห์โดยคำนวณ average annual course fee หรือ ค่าเรียนเฉลี่ยต่อปี จากสาขาที่เปิดสอนในระดับปริญญาตรี และปริญญาโทของแต่ละมหาวิทยาลัย

_____________________________________________________________________________

ช่วยกด LIKE  กด share ให้ด้วยนะคะ                                

หากท่านเห็นว่า รีวิวมหาวิทยาลัยนี้ดีไหม ของ Uni-review.com น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนคนอื่นๆ ที่กำลังหาข้อมูลศึกษาต่อต่างประเทศแล้ว  รบกวนช่วยกด LIKE  กด share ให้ด้วยนะคะ ทางเราจะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวมหาวิทยาลัยต่อไป

Facebook: Uni-Review.com มหาวิทยาลัยนี้ดีไหม

Website: www.uni-review.com


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*